A celebration of the start of a return to normality in Monaco where lockdown resulted in the cancellation of one of the F1’s calendar most iconic grands prix. Claude Lelouch’s short film, which will premiere this evening, tells the tale of an unusual rendezvous that this year replaced one of motorsport’s favourite annual events.
In fact, at the SF90 Stradale’s wheel is Charles Leclerc who powered it to over 240 km/h on the streets of his hometown with HSH Prince Albert as his first passenger followed by a mysterious lady travelling companion.
The film references “C'était un Rendez-Vous”, a previous short shot by Lelouch on the streets of Paris in 1976 which was to receive culture status over the years. Aside from a focus on speed and the instantly recognisable soundtrack of the Ferrari engine, both the new and the old feature actors close to the director’s heart: the co-star in the first film is Gunilla Friden, Lelouch’s then-partner, whilst the young florist appearing at the beginning and end of the second is none other than Rebecca Blanc-Lelouch, granddaughter to the 1976 couple.
“เลอ แกรนด์ ลองเด-วู” ภาพยนตร์สั้นเรื่องล่าสุดของ คล๊อด เลอลูช ฉายรอบปฐมฤกษ์
นำแสดงโดย เฟอร์รารี่ เอสเอฟ90 สตราเดเล และ ชาร์ลส์ เลอแคลร์
การเฉลิมฉลองให้กับการหวนคืนสู่ภาวะปกติในโมนาโก ที่ซึ่งการล็อคดาวน์ส่งผลให้ต้องยกเลิกหนึ่งในสนามที่โดดเด่นที่สุดของปฏิทินการแข่งขันเอฟวันไป ภาพยนตร์สั้นของ คล๊อด เลอลูช บอกเล่าเรื่องราวของการพบปะที่ผิดแผกแตกต่างไปจากเดิม ซึ่งเข้ามาแทนที่หนึ่งในกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตที่ได้รับความนิยมสูงสุดของปีนี้
โดยผู้ที่อยู่หลังพวงมาลัยของ เอสเอฟ90 สตราเดเล ก็คือ ชาร์ลส์ เลอแคลร์ ชายผู้นำรถคันนี้วิ่งทะลุผ่านความเร็วกว่า 240 กม./ชม. บนถนนในบ้านเกิดของเขา โดยมีหม่อมเจ้าอัลเบิร์ทนั่งมาในฐานะผู้โดยสารคนแรกของเขา ตามมาด้วยเพื่อนร่วมทางที่เป็นหญิงลึกลับคนหนึ่ง
ภาพยนตร์นี้อ้างอิงมาจากเรื่อง C'était un Rendez-Vous หนังสั้นที่ถูกถ่ายไปก่อนหน้านี้บนถนนของกรุงปารีสในปี 1976 โดย เลอลูช ซึ่งได้รับการยกย่องทางด้านวัฒนธรรมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นอกจากจะโฟกัสไปที่เรื่องของความเร็วและเสียงคำรามที่ได้ยินเพียงแวบเดียวก็รู้ว่ามาจากเครื่องยนต์ของเฟอร์รารี่แล้ว ยังมีนักแสดงหน้าเก่าและใหม่ ซึ่งทั้งคู่ต่างก็เป็นดั่งดวงใจของผู้กำกับ ร่วมแสดงอีกด้วย : นักแสดงสมทบในภาพยนตร์เรื่องแรกคือ กันนิลลา ฟริเดน ที่ต่อมากลายเป็นคู่ชีวิตของ เลอลูช ในขณะที่คนขายดอกไม้ตัวน้อยซึ่งปรากฏอยู่ในฉากเริ่มต้นและตอนจบ จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก รีเบกกา บล็อง-เลอลูช หลานสาวของคู่รักแห่งปี 1976 นั่นเอง